สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ โอกาสดีในการลดหย่อนภาษีและช่วยสิ่งแวดล้อม

การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในประเทศไทย กรมสรรพากรได้ออกมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่บ้านเรือน โดยผู้ติดตั้งสามารถยื่นขอรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่ใช้ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ โดยทั่วไปแล้วสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 50% ของค่าติดตั้งโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นการช่วยลดภาระภาษีให้กับผู้ติดตั้ง

• เงื่อนไข: การขอสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องมีใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานการชำระเงินที่แสดงถึงค่าติดตั้ง รวมถึงการติดตั้งต้องดำเนินการโดยบริษัทที่ได้รับอนุญาตและมีใบรับรองมาตรฐาน

สิทธิประโยชน์สำหรับธุรกิจ สำหรับธุรกิจที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนทางภาษีให้กับธุรกิจที่ลงทุนในระบบโซลาร์เซลล์ เช่น การลดหย่อนภาษีรายได้ธุรกิจจากค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง

• การลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล: ธุรกิจสามารถยื่นขอสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากค่าใช้จ่ายในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระต้นทุนการลงทุนในระบบพลังงานสะอาด และทำให้ธุรกิจได้รับประโยชน์จากการประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว

• เครดิตภาษีการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน: ภาครัฐยังมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน โดยธุรกิจที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์อาจได้รับเครดิตภาษีสำหรับการลงทุนในระบบโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมจากการประหยัดค่าไฟฟ้า

การสนับสนุนจากภาครัฐในรูปแบบเงินสนับสนุน (Subsidy) นอกจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว ภาครัฐยังมีโครงการสนับสนุนเงินลงทุนในโซลาร์เซลล์โดยตรงสำหรับบางกลุ่ม เช่น ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานมาก การให้เงินสนับสนุนจะช่วยลดต้นทุนเริ่มต้นในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น

การขายไฟฟ้าส่วนเกินกลับเข้าสู่ระบบไฟฟ้า (Net Metering) นโยบาย Net Metering เป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์สามารถได้รับ โดยผู้ที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์สามารถขายพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้กลับเข้าสู่ระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า เมื่อผลิตพลังงานได้มากเกินความต้องการใช้ การขายพลังงานส่วนเกินนี้จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับผู้ติดตั้ง ซึ่งเป็นอีกช่องทางในการคืนทุนและเพิ่มมูลค่าการลงทุนในโซลาร์เซลล์